iEnergyGuru

LighTing…น่ารู้

LighTing...น่ารู้

 

แสงสว่าง(Lighting) มีความสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ แสงสว่างอาจจะมีแหล่งกำเนิดจากธรรมชาติ (Daylight) เช่น แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ แสงสว่างจากท้องฟ้า เป็นต้น และแหล่งกำเนิดที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น (Artificial light) เช่น แสงสว่างจากหลอดไฟชนิดต่างๆ

1. ความหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับระบบแสงสว่าง

ความส่องสว่าง = ปริมาณแสง (ลูเมน)
                             พื้นที่ (ตารางเมตร)

หลอดไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพต่ำนั้น กว่า 80% ของพลังงานไฟฟ้า ที่ใส่เข้าไปในระบบแสงสว่างสูญเสียในรูปความร้อน

2. อุปกรณ์ในระบบแสงสว่างที่ควรรู้

- หลอดไฟ หลอดไฟฟ้าที่นิยมใช้ในอาคารและโรงงานในปัจจุบันโดยทั่วไปมีดังนี้

ชนิดหลอดไฟ

 

หลอดไส้ (Incandescent lamp)

 หลอดไฟประเภทนี้พลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่สูญเสียไปในรูปของความร้อนมากกว่า จะถูกเปลี่ยนเป็นแสงสว่าง โดยทั่วไปหลอดไส้สามารถให้แสงสว่างได้ประมาณ 15-20
ลูเมน/วัตต์ และมีอายุการใช้งานประมาณ 1,000 ชั่วโมง การติดตั้งหลอดทำได้ง่ายและมีราคาถูก
 

หลอดแสงจันทร์ (Mercury lamp)

ภาพจาก : www.lighting.philips.com

ใช้หลักการปล่อยประจุความเข้มสูง (High intensity discharge, HID) นิยมใช้ตามถนน เหมาะกับงานสนามและโรงงานอุตสาหกรรม มีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 24,000 ชั่วโมง หลอดแสงจันทร์มีอยู่ 2 ชนิด คือ ชนิดที่ใช้บัลลาสต์กับชนิดที่ไม่ใช้บัลลาสต์ ชนิดที่ไม่ใช้บัลลาสต์จะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า
 

หลอดเมทัลฮาไลด์

ภาพจาก : www.ksyscorp.com

หลอด HID อีกประเภทหนึ่ง ที่มีโครงสร้างและการทำงานคล้ายกับหลอดแสงจันทร์ แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและให้ความสมดุลของแสงดีกว่า แต่มีอายุการใช้งาน 8,000-15,000 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าหลอดแสงจันทร์ถึงเท่าตัว
 

หลอดโซเดียมความดันต่ำ

ภาพจาก : www.exteen.com

เป็นหลอดที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในบรรดาหลอด HID ด้วยกัน สามารถให้ประสิทธิภาพได้ถึง 180 ลูเมนต่อวัตต์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าหลอดเมทัลฮาไลด์และหลอดฟลูออเรสเซนต์ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และมีประสิทธิภาพสูงกว่าหลอดแสงจันทร์ถึงเท่าตัว และสูงกว่าหลอดอินแคนเดสเซนต์ถึง 6 เท่า
 

หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent lamp

ภาพจาก : www.bloggang.com

ปัจจุบันหลอดฟลูออเรสเซนต์ถูกนำมาใช้งานเป็นจำนวนมาก มีประสิทธิการส่องสว่างประมาณ 50-80 ลูเมนต่อวัตต์ ถือว่าสูงพอสมควรและประหยัดค่าไฟฟ้าเมื่อเทียบกับหลอดอินแคนเดสเซนต์และมีอายุการใช้งาน 8,000-12,000 ชม.

หลอดแอลอีดีกำลังสูง
(Light-emitting diodes, LED)

ภาพจาก : taisialed.com/why-led/

เทคโนโลยีไดโอดเรืองแสงหรือแอลอีดี ได้ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแอลอีดีกำลังสูง (High power LED) ที่มีค่าความส่องสว่างสูงเมื่อเทียบเท่าหลอดไฟชนิดอื่น ไม่ก่อให้เกิดรังสีอัลตร้าไวโอเลต มีอายุการใช้งานยาวนาน มีความร้อนของลำแสงน้อยมาก และยังมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับหลอดไฟชนิดอื่นๆ มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั้งในวงการแพทย์ ยานยนต์ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งแอลอีดีกำลังสูงนั้นเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี จึงมีการนำมาใช้ในระบบแสงสว่างในสำนักงาน โรงงาน และไฟถนน เพิ่มมากขึ้น

ตารางที่ 1 คุณสมบัติโดยประมาณของหลอดไฟฟ้าชนิดต่างๆ

ชนิดของหลอดไฟ ปริมาณแสงที่ให้
(ลูเมน)
ประสิทธิผล
(ลูเมน/วัตต์)
ดัชนีความถูกต้องของสี
(วัตต์)
อายุการใช้งาน
(ชั่วโมง)
หลอดอินแคนเดสเซนต์ 90 - 3,150 5-10 100 1,000
หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ 200 - 3,200 35-80 80-90 7,500-10,000
หลอดฟลูออเรสเซนต์ 1,300 - 5,200 73-93 80-90 8,000-12,000
หลอดโซเดียมความดันสูง 2,400 - 130,000 70-130 30-50 18,000-24,000
หลอดโซเดียมความดันต่ำ 1,800 - 32,000 100-180 0-20 22,000-24,000
หลอดไอปรอท 1,800 - 58,000 30-60 40-60 20,000-24,000
หลอดเมทัลฮาไลด์ 2,400 - 240,000 60-120 60-90 8,000-15,000
หลอดแอลอีดี 136 -20,000 50-120 80-92 20,000-50,000

ถ้าดูเฉพาะการประหยัดพลังงาน คือต้องดูจากค่าลูเมนต่อวัตต์ให้มีค่าสูง ถ้าดูสีถูกต้องต้องอินแคนเดสเซนต์ เลือกหลอดกลุ่มประหยัดพลังงาน ได้แก่ หลอด LED หลอดฟลูออเรสเซนต์ประสิทธิภาพสูง หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์

ตารางที่ 2 ค่ามาตรฐานความส่องสว่างและการใช้พลังงานสำหรับกิจกรรมประเภทต่างๆ
ค่าความสว่างในอาคารตามมาตรฐาน CIE

พื้นที่ต่างๆ ระดับความสว่าง (ลักซ์) CIE
ห้องประชุม 300-500-750
ห้องเขียนแบบ 500-750-1000
ห้องทำงานทั่วไป 300-500-750
ห้องคอมพิวเตอร์ 300-500-750
ห้องสมุด 300-500-750
ร้านค้าในอาคารพานิชย์ 500-750
เคาท์เตอร์ 200-300-500
ห้องเก็บของ 100-150-200
ห้องล็อบบี้หรือบริเวณต้อนรับ 100-150-200
ห้องน้ำ 100-150-200
ทางเดิน 50-100-150
บันได 100-150-200
ลิฟท์ 100-150-200

ค่าความสว่างในโรงงานตามมาตรฐาน CIE

ลักษณะของงาน พื้นที่ใช้งาน ระดับความสว่าง (ลักซ์) CIE
งานทั่วไป ทางเดินภายใน/นอกอาคาร บันได ห้องเก็บของ 150-200-300
งานหยาบ บรรจุผลิตภัณฑ์ หัตถกรรม โรงสี ห้องหม้อน้ำ 200-300-500
งานละเอียดปานกลาง ประกอบชิ้นส่วนทั่วไป  ขึ้นรูปอย่างหยาบๆ 300-500-750
งานละเอียด เขียน อ่าน ขึ้นรูปและตรวจสอบทั่วไป 500-750-1,000
งานละเอียดมาก เขียนแบบขึ้นรูปและตรวจสอบละเอียด 1,000-1,500-2,000

ที่มา : สมาคมแสงสว่างแห่งประเทศไทย www.tieathai.org

- โคมไฟ ทำหน้าที่บังคับแสงจากหลอดไฟฟ้าให้กระจายในทิศทางต่างๆที่ต้องการ การเลือกใช้โคมไฟต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน ความสวยงาม ความคงทน และการบำรุงรักษา ประเภทของโคมไฟฟ้ามีดังนี้

ชนิดโคมไฟ

 

โคมดาวน์ไลน์

ภาพจาก : www.pantip.com/topic/32800405

โคมไฟประเภทส่องลงให้แสงกระจายลงมาด้านล่าง เหมาะสำหรับการใช้งานส่องสว่างทั่วไป ส่วนใหญ่ใช้กับหลอดอินแคนเดสเซนต์ ทังสเตนฮาโลเจน และหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ นิยมติดตั้งฝังฝ้าเพดานเพื่อความสวยงาม
 

โคมหลอดฟลูออเรสเซนต์

ภาพจาก : www.itthiritelectric.com

มีทั้งประเภทโคมเปลือยและโคมแบบมีแผ่นสะท้อนแสงด้านหลังเพื่อเพิ่มความส่องสว่าง
 

โคมไฮเบย์หรือโคมโรงงาน

ภาพจาก : www.l-and-e.com

โคมที่ติดตั้งบริเวณหลังคาโรงงานที่มีความสูงมากๆ
 

โคมไฟส่องอาคาร

ภาพจาก : www.l-and-e.com

มักใช้กับหลอด HID สำหรับส่องภายนอกของตัวอาคาร
 

โคมไฟชนิด Up light หรือ Indirect light

ภาพจาก : www.ligmanlighting.com

ใช้ตกแต่งให้แสงสะท้อนขึ้นบนเพดาน เพิ่มความหรูหรามีรสนิยม

 

ระดับ 1 เป็นโคมที่มีการต่อตัวถังของโคมลงดิน จึงสามารถสัมผัสได้โดยไม่มีอันตราย และมีสัญญลักษณ์เป็น  

ระดับ 2 เป็นโคมที่มีการห่อหุ้มส่วนที่มีไฟฟ้าด้วยฉนวน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงส่วนที่มีไฟได้ และมีสัญญลักษณ์เป็น 

ระดับ 3 เป็นโคมที่ใช้ศักดาไฟฟ้าต่ำมาก คือ น้อยกว่า 42 โวลท์ ดังนั้นจึงไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ได้ และมีสัญญลักษณ์เป็น 

ดังนั้นถ้าหากพบสัญญลักษณ์ดังกล่าวข้างต้นก็สามารถเข้าใจได้ดีขึ้นว่าโคมดังกล่าวถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานอย่างไรเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเอง

“ตัวอย่าง กลุ่มโคมประหยัดพลังงาน ได้แก่ โคมสะท้อนแสงประสิทธิภาพสูง”

- บัลลาสต์ เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ควบคุมแหล่งจ่ายพลังงาน ให้กระแสไฟฟ้าที่ผ่านเข้าไปในหลอดไฟให้มีความสม่ำเสมอ เหมาะสมกับหลอดไฟแต่ละประเภทแต่ละชนิดและแต่ละขนาด สำหรับบัลลาสต์ที่ใช้กับหลอดฟลูอเรสเซนต์ที่จัดอยู่ในกลุ่มอุปกรณ์ประหยัดพลังงานได้แก่

ภาพจาก : www.boonthavorn.com

บัลลาสต์แกนเหล็กประสิทธิภาพสูงหรือบัลลาสต์โลลอส

เป็นบัลลาสต์ที่ทำด้วยแกนเหล็ก และขดลวดที่มีคุณภาพดีทำให้มีการสูญเสียพลังงานจะลดลงเหลือ 5-6 วัตต์ อุณภูมิขณะการใช้งานต่ำกว่าแบบแกนเหล็กธรรมดาโดยจะอยู่ที่ช่วง 35 - 50°C และยังให้ค่าตัวประกอบกำลังต่ำ (Power Factor)

ภาพจาก : www.ctythai.com

บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์

เป็นบัลลาสต์ที่ทำด้วยชุดวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีการสูญเสียพลังงานน้อยประมาณ 1-2 วัตต์ เปิดติดทันทีไม่กระพริบ ไม่ต้องใช้สตาร์ทเตอร์ ทำให้อายุการใช้งานของหลอดแสงสว่างนานขึ้น 2 เท่า ในการเลือกซื้อและเลือกใช้ควรตรวจสอบมาตรฐานและวัสดุชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะมีผลกระทบเรื่องฮาโมนิกส์เพิ่มเติมในระบบไฟฟ้า

บัลลาสต์ขดลวดแกนเหล็กแบบธรรมดา พลังงานสูญเสียประมาณ 20% กำลังไฟฟ้าที่จ่าย จะอยู่ประมาณ 8-10 วัตต์ ขณะที่บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มีการสูญเสียประมาณ 1-2 วัตต์

ในพื้นที่ทำงานที่ไม่จำเป็นต้องมีความส่องสว่างสม่ำเสมอ ความส่องสว่างโดยรอบบริเวณทำงานไม่ควรมีความส่องสว่างน้อยกว่า 1/3 ของความส่องสว่างที่โต๊ะ หรือ พื้นที่ทำงาน เช่น ในห้องผู้จัดการ ที่โต๊ะทำงานมีความส่องสว่าง 500 ลักซ์ บริเวณรอบข้างไม่ควรมีความส่องสว่างน้อยกว่า 500/3 = 170 ลักซ์ เป็นต้น

ในพื้นที่ทำงานข้างเคียงไม่ควรมีความส่องสว่างต่างกันมากกว่า 5:1 เช่น ในห้องทำงานมีความส่องสว่าง 500 ลักซ์ เมื่อเดินออกนอกห้องแล้ว ความส่องสว่างด้านนอกไม่ว่าจะเป็นทางเดินหรืออะไรก็แล้วแต่ไม่ควรมีความส่องสว่างน้อยกว่า 100 ลักซ์ เป็นต้น

 

Bibliography
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน. (2555). การตรวจวิเคราะห์การอนุรัก์พลังงาน ระบบแสงสว่าง. In กระทรวงพลังงาน, คู่มือการตรวจวิเคราะห์การอนุรักษ์พลังงาน สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (pp. 3-2 - 3-7).

 

0 Reviews

Write a Review

Exit mobile version