ภาพท่อไอเสียรถยนต์บนถนนในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018
REUTERS/Fabrizio Bensch
รายงานข่าวจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที 14 กรกรฎาคม 2564 (สำนักข่าวรอยเตอร์) - สหภาพยุโรปเสนอห้ามการขายรถยนต์เบนซินและดีเซลใหม่โดยให้มีผลตั้งแต่ปี 2578 โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ (EVs) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
คณะกรรมาธิการยุโรป ผู้บริหารของสหภาพยุโรป เสนอให้ลดการปล่อย CO2 จากรถยนต์ 55% ภายในปี 2573 เทียบกับปี 2564 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ลดลง 37.5% ในตอนนั้น
นอกจากนี้ยังเสนอให้ลดการปล่อย CO2 100% ภายในปี 2578 ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถขายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลใหม่ในกลุ่ม 27 ประเทศ ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป “นี่คือความทะเยอทะยานประเภทหนึ่งที่เรารอคอยจากสหภาพยุโรป ซึ่งขาดไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา” เฮเลน คลาร์กสัน หัวหน้าผู้บริหารของ Climate Group ซึ่งเป็นกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานร่วมกับธุรกิจและรัฐบาลกล่าว รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สถานีชาร์จใน ประเทศเยอรมนี: ข้อเสนอของสหภาพยุโรปจะมีผลบังคับห้ามการขายรถยนต์เบนซินและดีเซลใหม่ในปี 2578 © Reuter
อย่างไรก็ตาม สมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์แห่งยุโรป ACEA กล่าวว่าการแบนเทคโนโลยีเฉพาะไม่ใช่แนวทางที่สมเหตุสมผล โดยเสริมว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน, ไฮบริด, รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ และรถยนต์ไฮโดรเจน
นอกจากนี้แล้ว Brussels ยังเสนอกฎหมายที่จะกำหนดให้ประเทศต่าง ๆ ติดตั้งจุดชาร์จสาธารณะไม่เกิน 60 กิโลเมตร (37.3 ไมล์) บนถนนสายหลักภายในปี 2568 เพื่อกระตุ้นยอดขาย EV โดยคาดการณ์ว่าจะมีสถานีชาร์จรถยนต์และรถตู้สาธารณะ 3.5 ล้านแห่งภายในปี 2573 เพิ่มขึ้นเป็น 16.3 ล้านแห่งภายในปี 2593 เนื่องจากถึงแม้ว่าผู้ซื้อจะสามารถจ่ายเบี้ยประกันภัยราคาสูงสำหรับรถยนต์บางส่วนหรือรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดได้ หลายคนก็ยังถูกขัดขวางจาก "ความกังวลเรื่องระยะทางในการขับ" เนื่องจากไม่มีสถานีชาร์จสาธารณะ ทั้งนี้ผู้ผลิตรถยนต์ส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะยอมรับเฉพาะเป้าหมายการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดกว่าเพื่อแลกกับการลงทุนสาธารณะจำนวนมากสำหรับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger)
สรุปแผนงานและเป้าหมายของ EU
- คณะกรรมาธิการฯ เสนอให้ลดการปล่อย CO2 จากรถยนต์ 55% ภายในปี 2573
- ข้อเสนอรวมถึงการลดการปล่อย CO2 จากรถยนต์ 100% ภายในปี 2578
- คณะกรรมาธิการฯ คาดว่ามีสถานีชาร์จ 16.3 ล้านแห่งภายในปี 2593
- รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดจะคงนับว่าเป็นรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษต่ำจนถึงปี 2573
นับตั้งแต่วันที่ EU ประกาศเป้าหมายข้างต้นเป็นว่ากว่า 1 ปี แล้ว เราคงต้องจับตามองกันต่อไปว่าเป้าหมายดังกล่าวจะบรรลุผลหรือไม่เมื่อสถานการณ์ด้านพลังงานมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงเวลาเกือบ 1 ปี ที่ผ่านมา รวมถึงการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรี่ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า ที่อาจส่งผลให้แผนงานต่าง ๆ อาจต้องล่าช้าออกไปหรือไม่ ?
แปลและเรียบเรียง โดย ดร.วิชาญ นาคทอง ทีมงาน iEnergy Guru
Reference
- https://www.reuters.com/business/retail-consumer/eu-proposes-effective-ban-new-fossil-fuel-car-sales-2035-2021-07-14/
- https://www.transportenvironment.org/discover/eu-climate-plan-will-make-emissions-free-cars-accessible-for-all/
- https://www.iea.org/reports/global-ev-outlook-2021/policies-to-promote-electric-vehicle-deployment
- https://asia.nikkei.com/Spotlight/Environment/Climate-Change/EU-Green-Deal-seeks-to-force-shift-to-electric-vehicles-in-2035