เชื่อกันว่าหลายคนที่กำลังจับจ้องมองหา รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EVs เพื่อใช้เป็นยานพาหนะคู่ใจคันต่อไป ซึ่งปัจจุบันค่ายรถยนต์ชั้นนำได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ ยานยนต์ไฟฟ้า กันหลายรุ่นให้ได้เลือกใช้งาน ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก ยานยนต์ไฟฟ้าในเบื้องต้นกันก่อน รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน (หรือที่เรียกว่ารถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV) มีความสามารถที่แตกต่างกันซึ่งสามารถรองรับความต้องการของผู้ขับขี่ที่แตกต่างกัน คุณสมบัติหลักของ EV คือผู้ขับขี่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าภายนอก สิ่งนี้ทำให้พวกมันแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดซึ่งเสริมเครื่องยนต์สันดาปภายในด้วยพลังงานแบตเตอรี่ แต่ไม่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์ทไฟฟ้าได้
EV มีสองประเภทพื้นฐาน ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด (all-electric vehicles; AEVs) และ รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (plug-in hybrid electric vehicles; PHEV) AEV ยังแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicles; BEVs) และรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicles; FCEVs) นอกเหนือจากการชาร์จจากกริดไฟฟ้าแล้วทั้งสองประเภทจะสามารถชาร์ทไฟกลับบางส่วนด้วย regenerative braking ซึ่งสร้างกระแสไฟฟ้าจากพลังงานบางส่วนที่สูญเสียไปตามปกติเมื่อเราเบรกรถยนต์
รถยนต์ไฟฟ้าชนิด AEVs ทำงานโดยใช้ไฟฟ้าเท่านั้น ช่วงแรก ๆ รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ชาร์ท 1 ครั้ง สามารถขับได้ระยะทางประมาณ 80 ถึง 100 ไมล์ ในขณะที่รุ่นหรูบางรุ่นมีระยะทางไม่เกิน 250 ไมล์ เมื่อแบตเตอรี่หมดอาจใช้เวลาตั้งแต่ 30 นาที (ด้วยการชาร์จแบบเร็ว) ถึงเกือบหนึ่งวันเต็ม (ด้วยการชาร์จระดับปกติ) ในการชาร์จใหม่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์ชาร์จและแบตเตอรี่ แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีของแบตเตอร์รี่กันก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้การชาร์ท 1 ครั้ง ใช้เวลาน้อยลงและสามารถเดินทางได้ระยะทางที่ไกลมากขึ้น
แต่ถ้าใครยังกังวลเรื่องสถานีชาร์ทไฟฟ้าที่ยังหากยากอยู่สำหรับประเทศไทยนั้น รถยนต์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า PHEV ทำงานด้วยไฟฟ้าในช่วงที่สั้นกว่า (6 ถึง 40 ไมล์) จากนั้นเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทำงานด้วยน้ำมันเบนซินเมื่อแบตเตอรี่หมด ความยืดหยุ่นของ PHEV ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้ไฟฟ้าได้บ่อยเท่าที่จะเป็นไปได้ในขณะเดียวกันก็สามารถเติมน้ำมันด้วยน้ำมันเบนซินได้หากจำเป็น การจ่ายไฟให้รถด้วยไฟฟ้าจากกริดช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อระยะทางขับขี่ไกล ๆ PHEV จะทำหน้าที่เหมือนรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดกินน้ำมันน้อยกว่าและปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถทั่วไปที่คล้ายกัน เครื่องยนต์สันดาปภายในอาจส่งกำลังให้กับรถในช่วงเวลาอื่น ๆ เช่น ในระหว่างการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็วหรือเมื่อใช้เครื่องปรับอากาศทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ นอกนี้แล้ว ในบางประเทศ PHEV ยังสามารถใช้ไฮโดรเจนในเซลล์เชื้อเพลิงเชื้อเพลิงชีวภาพหรือเชื้อเพลิงทางเลือกอื่น ๆ เป็นแหล่งพลังงานสำรองแทนน้ำมันเบนซิน อันนี้ต้องแล้วแต่ค่ายรถยนต์ในการนำเสนอและท่านต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของการใช้งานของแต่ละท่าน
เรียบเรียงโดย ดร.วิชาญ นาคทอง ทีมงาน iEnergyGuru
Reference :
- Pic 1 : https://qph.fs.quoracdn.net/main-qimg-e657a3a75d26b64297d100d0a6ac3da3
- Pic 2 : https://www.researchgate.net/profile/Vincenzo-Manno/publication/292138701/figure/fig10/AS:614336523407360@1523480649012/Fuel-Cell-Electric-Vehicles-FCEV-Toyota-Source-97.png
- Pic 3 : https://afdc.energy.gov/vehicles/how-do-plug-in-hybrid-electric-cars-work
- https://www.energy.gov/eere/electricvehicles/electric-vehicle-basics#:~:text=There%20are%20two%20basic%20types%20of%20EVs%3A%20all-electric,Vehicles%20%28BEVs%29%20and%20Fuel%20Cell%20Electric%20Vehicles%20%28FCEVs%29.
- https://www.ecoenclose.com/blog/sustainability-trends-that-will-shape-the-2020s/