เนเธอร์แลนด์กำลังจะกลายเป็นประเทศที่มีฟาร์มกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เนเธอร์แลนด์กำลังจะกลายเป็นประเทศที่มีฟาร์มกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เกาะ TenneT สถานที่ติดตั้งอุปกรณ์เพื่อการแปลงกระแสไฟฟ้า (ที่มาของรูปภาพ website : weforum)
ฟาร์มกังหันลมที่ใหญ่ เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่มีความมุ่งมั่นสูงในเรื่องของการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศ โดยวางแผนที่จะเป็นประเทศที่มีฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี ค.ศ. 2027 และยังมีการเตรียมเกาะเทียมที่สร้างขึ้นมา มีพื้นที่กว่า 2.3 ตารางไมล์เพื่อรองรับโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย ทางเว็บไซต์ The Guardian รายงานว่า โครงการฟาร์มกังหันลมจะเกิดขึ้นบริเวณ Dogger Bank พื้นที่ 78 ไมล์นอกชายฝั่ง East Yorkshire ที่มีความเหมาะสมซึ่งมีลมแรงและน้ำทะเลไม่ลึกมาก หากโครงการแล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถส่งไฟฟ้าไปยังหลายๆ ประเทศในยุโรปได้ เช่น เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ เบลเยี่ยม เยอรมนี และเดนมาร์ก เป็นต้น
โดยปกติแล้วการสร้างฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งจะมีการลงทุนที่สูงมากโดยเฉพาะในเรื่องของการเดินสายไฟใต้น้ำซึ่งจะมีกระบวนการแปลงไฟฟ้าเกิดขึ้นจากพลังงานลมมาเป็นพลังงานไฟฟ้าแบบกริดที่เราใช้กันอยู่ทั่วไป โดยเกาะ TenneT จะเป็นสถานที่ติดตั้งอุปกรณ์เพื่อการแปลงกระแสไฟฟ้าเพื่อให้กังหันลมสามารถส่งผ่านพลังงานไฟฟ้าไปยังประเทศอังกฤษและเนเธอร์แลนด์โดยตรงผ่านระบบการเดินสายไฟฟ้าที่ใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า
บริษัทของเนเธอร์แลนด์ที่กำลังก่อสร้างฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก
(ที่มาของรูปภาพ website : weforum)
แม้ว่างบประมาณเพื่อใช้ในการสนับสนุนการผลิตพลังงานไฟฟ้านอกชายฝั่งจะสูงกว่าการผลิตในชายฝั่ง แต่การผลิตนอกชายฝั่งให้ความคุ้มค่ามากกว่า นั่นเพราะว่าแรงลมนอกชายฝั่งนั้นมีประสิทธิภาพและคงที่มากกว่า เมื่อแล้วเสร็จ คาดว่าโครงการฟาร์มกังหันลมของเนเธอแลนด์จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 30 กิกะวัตต์ ซึ่งมากกว่าสองเท่าของการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมนอกชายฝั่งทั่วทั้งยุโรปในปัจจุบัน โดยที่ London Array สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ที่ 630 เมกกะวัตต์ในพื้นที่ 47 ตารางไมล์ ซึ่งถือว่าเป็นเป็นฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ ส่วนฟาร์มกังหันลมในชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ Gansu Wind Farm ในประเทศจีน ที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 6,000 เมกะวัตต์หรือ 6 กิกกะวัตต์ อ้างอิงจากรายงานในปี ค.ศ. 2012 อย่างไรก็ตามจีนได้มีการวางเป้าหมายว่าจะต้องผลิตกระแสไฟฟ้าให้ได้ 20,000 เมกะวัตต์หรือ 20 กิกกะวัตต์ ภายในปี ค.ศ. 2020 จากรายงานปี ค.ศ. 2017 ของ New York Times พบว่ายังมีกังหันลมจำนวนหนึ่งของ Gansu Wind Farm ที่ยังถูกปล่อยไว้โดยไม่ได้ใช้งาน ไม่เพียงเท่านี้ ยังพบว่าการผลิตพลังงานลมนอกชายฝั่งของสหรัฐอเมริกานั้นมีศักยภาพที่สูงมาก หากสหรัฐมีการติดตั้งกังหันลมให้ทั่วทุกพื้นที่ชายฝั่ง จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า 4,000 กิกกะวัตต์ต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่า 4 เท่าของการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งประเทศใน 1 ปี ยังมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งอีกหลายโครงการในสหรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ อย่างฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งแห่งแรกของสหรัฐที่เรียกว่า Block Island Wind Farm มีการเริ่มส่งกระแสไฟฟ้าไปยังรัฐ New England ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2017 และยังช่วยให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานดีเซลที่ก่อนหน้านี้ผลิตไฟฟ้าให้กับ Rhode Island ปิดตัวลงไปด้วย ในปี ค.ศ. 2018 นี้ Deepwater Wind ยังมีโครงการที่จะติดตั้งกังหันลม 15 ตัวซึ่งห่างจากชายฝั่นตะวันออกของ Montauk รัฐ New York ไป 30 ไมล์อีกด้วย
กังหันลมรุ่น GE Haliade ของโครงการ Deepwater Wind ซึ่งถูกติดตั้งขึ้นที่ฟาร์ม Block Island Wind Farm
(ใน Rhode Island (ที่มาของรูปภาพ website : businessinsider)
เรียบเรียงโดย นาย ศาสตร์ณุพล วิเชียรกัลยารัตย์ ทีมงาน iEnergy Guru
เอกสารอ้างอิง
https://www.weforum.org/agenda/2018/01/the-dutch-plan-to-build-the-worlds-biggest-wind-farm
http://www.businessinsider.com/americas-first-offshore-wind-farm-diesel-plant-block-island-2017-5
https://www.digitaltrends.com/cool-tech/worlds-biggest-wind-farm/
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!