Crude Oil
คำแปล: น้ำมันดิบ
ความหมาย: ปิโตรเลียมที่อยู่ในรูปของเหลวที่มีลักษณะปรากฏแตกต่างกันส่วนใหญ่มีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม และอาจจะมีสีออกเหลือง ออกแดง หรือออกเขียวบ้าง ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของน้ำมัน และมีกลิ่นคล้ายน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป
การจำแนกคุณภาพน้ำมันดิบ
โดยปกติแล้วน้ำมันดิบที่ขุดขึ้นมาจากใต้พื้นดิน หรือจากใต้ทะเล มักจะเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ได้จากการทับถมของซากพืชซากสัตว์โบราณ (ฟอสซิล)ที่หมักหมมทับถมอยู่ในแอ่งระหว่างชั้นหินชั้นดินมานานชั่วนาตาปี ซึ่งน้ำมันดิบที่ขุดขึ้นมาได้นี้ ไม่ได้มีความบริสุทธิ์ 100% แต่ยังมีสารเคมีอื่นๆ ผสมปนอยู่ โดยสารตัวหนึ่งที่ต้องกำจัดออกก่อนที่จะนำไปกลั่นเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลี่ยม (เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลที่เราใช้เติมรถยนต์) นั่นคือ กำมะถัน (Sulfur)
กำมะถันเป็นสารที่ต้องสกัดออกไปก่อนที่จะเกิดกระบวนการกลั่นขึ้น มิฉะนั้นจะทำให้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลี่ยมชนิดต่างๆ ที่เรากลั่นได้จากน้ำมันดิบมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งถ้าเอาไปใช้เติมเป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ เครื่องยนต์ก็จะสึกกร่อนและมีอายุการใช้งานที่สั้นลง เนื่องจากกำมะถันที่ปนอยู่ในเนื้อน้ำมันมักจะอยู่ในรูปของก๊าซ hydrogen sulfide ซึ่งมีคุณสมบัติในการกัดกร่อน และเป็นสารที่มีพิษ ดังนั้นน้ำมันดิบที่มีกำมะถันปนอยู่ในสัดส่วนที่สูงและมีฤทธิ์เป็นกรด จึงเรียกว่า Sour Crude Oil แต่ถ้าเป็นน้ำมันดิบที่มีกำมะถันเจือปนอยู่ในสัดส่วนต่ำกว่า 0.5% เราจะเรียกว่า Sweet Crude Oil
นอกจากน้ำมันดิบจะแตกต่างกันที่การมีกำมะถันเจือปนอยู่มากน้อยแค่ไหนแล้ว ความหนาแน่น หรือความข้น – ความใสของน้ำมันดิบก็เป็นคุณสมบัติที่กำหนดคุณภาพของน้ำมันดิบเช่นเดียวกัน น้ำมันดิบที่มีลักษณะเป็นของเหลวที่ไม่ข้นจนเกินไป จะทำให้การกลั่นทำได้ง่าย ต้นทุนในการกลั่นก็จะต่ำ ดังนั้นน้ำมันดิบที่มีความหนาแน่นต่ำ ที่เรียกว่า Light Crude Oil นี้จึงมีราคาสูง และในทางตรงกันข้ามน้ำมันดิบที่มีลักษณะหนืดข้น
มีความหนาแน่นสูงที่เรียกว่า Heavy Crude Oil ก็จะต้องกลั่นด้วยความยากลำบากและมีต้นทุนในการกลั่นที่สูงขึ้น ดังนั้นน้ำมันดิบประเภทนี้ก็จะมีราคาซื้อขายลดต่ำลงมา
ประเภทของน้ำมันดิบ
น้ำมันดิบมีองค์ประกอบส่วนใหญ่คือสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่าย เราจึงแบ่งน้ำมันดิบออกเป็น 3 ชนิด ตามคุณสมบัติและชนิดของไฮโดรคาร์บอนที่ประกอบอยู่ คือ น้ำมันดิบฐานพาราฟิน น้ำมันดิบฐานแนฟทีน และน้ำมันดิบฐานผสม โดยเมื่อผ่านกระบวนการกลั่นแล้ว จะได้เป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันต่าง ๆ เช่น น้ำมันก๊าด ยางมะตอย หรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ รถยนต์ เครื่องบิน เครื่องบินไอพ่น เตาเผา และเตาอบ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นส่วนผสมของสีทาบ้าน น้ำมันชักเงา น้ำยาทำความสะอาด ยาฆ่าแมลง เป็นต้น
แหล่งของน้ำมันดิบ
แหล่งน้ำมันดิบจะเกิดขึ้นได้ต้องมีสามเงื่อนไข คือ
- หินกำเนิดซึ่งอุดมไปด้วยสารไฮโดรคาร์บอนฝังอยู่ลึกเพียงพอที่ความร้อนใต้พิภพจะเปลี่ยนให้เป็นน้ำมัน
- หินกักเก็บมีรูพรุนและซึมผ่านได้เพื่อให้น้ำมันไปสะสม
- หินครอบหรือหินปิดกั้น หรือกลไกอื่นซึ่งกันมิให้มันไหลออกสู่พื้นผิว
ภายในแหล่งน้ำมันเหล่านี้ของไหลโดยแบบจะจัดเรียงเป็นสามชั้น โดยมีน้ำอยู่ข้างใต้ น้ำมันอยู่กลางและแก๊สอยู่บน แม้ชั้นต่าง ๆ จะมีขนาดแตกต่างกันไปตามแหล่งกำเนิดเพราะไฮโดรคาร์บอนส่วนใหญ่เบากว่าหินหรือน้ำ จึงมักไหลตัวขึ้นข้างบนผ่านชั้นหินที่อยู่ติดกันกระทั่งถึงพื้นผิวหรือถูกกักไว้ในหินรูพรุน (ซึ่งรู้จักกันว่า แหล่งกักเก็บ) โดยมีชั้นหินที่ผ่านไม่ได้อยู่ข้างบน อย่างไรก็ดี กระบวนการนี้ได้รับอิทธิพลจากการไหลของน้ำบาดาล ทำให้น้ำมันสามารถเคลื่อนตัวได้หลายร้อยกิโลเมตรตามแนวระดับ หรือแม้กระทั่งลงไประยะสั้น ๆ ก่อนจะถูกกักในแหล่งกักเก็บ เมื่อไฮโดรคาร์บอนเข้มข้นขึ้นในแหล่งกักเก็บนั้น ก็จะเกิดเป็นบ่อน้ำมัน ซึ่งของเหลวสามารถสกัดออกมาได้ด้วยการขุดเจาะและการปั๊ม
ปฏิกิริยาที่ผลิตน้ำมันและแก๊สธรรมชาติมักจำลองแบบว่าเป็นปฏิกิริยาการสลายลำดับแรกโดยไฮโดรคาร์บอนถูกสลายเป็นน้ำมันและแก๊สธรรมชาติโดยกลุ่มปฏิกิริยาคู่ขนานแล้วน้ำมันจะถูกสลายเป็นแก๊สธรรมชาติโดยปฏิกิริยาอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งกลุ่มหลังนี้ใช้กันปกติในโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน
แหล่งขุดเจาะน้ำมันของไทยมีที่ไหนบ้าง
แม้ว่าประเทศไทยอาจไม่ใช่ประเทศที่โดดเด่นในเรื่องของการส่งออกน้ำมันหรือการขุดเจาะน้ำมันก็ตามที แต่จริงๆ แล้วในประเทศไทยของเราเองก็มีแหล่งการขุดเจาะน้ำมันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว บางคนอาจคิดว่ามีแต่เฉพาะในทะเลอ่าวไทย แต่ทว่าเรามีแหล่งขุดเจาะน้ำมันทั้งบนบกและในน้ำด้วย ซึ่งแต่ละที่ต้องบอกว่าหลายคนคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลางจะเป็นแหล่งน้ำมันดิบที่มีขนาดเล็กประกอบไปด้วย
- แหล่งฝาง อำเภอฝาง เชียงใหม่ มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 1,000 บาร์เรลต่อวัน
- แหล่งสิริกิติ์ อยู่ที่ทับแรด, หนองตูม, หนองมะขาม, วัดแตน, ประดูเฒ่า, เสาเถียร, ปรือกระเทียม, หนองแสง, บึงหญ้า, ทุ่งยางเมือง, บึงม่วง, บึงตะวันตก, บึงม่วงใต้, หนองสระอรุโณทัย และบูรพา ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอลานกระบือ กำแพงเพชร, อำเภอคีรีมาศ, อำเภอกรงไกรลาศ สุโขทัย และอำเภอบางระกำ พิษณุโลก มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 30,000 บาร์เรลต่อวัน และมีก๊าซธรรมชาติที่ขึ้นมาพร้อมกับน้ำมันดิบ 25 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
- แหล่งวิเชียรบุรี อยู่ที่ศรีเทพ, นาสนุ่น, นาสนุ่นตะวันออก, บ่อรังเหนือ, วิเชียรบุรีส่วนขยาย และ L33 อยู่ที่อำเภอวิเชียรบุรี, อำเภอศรีเทพ เพชรบูรณ์ มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 2,200 บาร์เรลต่อวัน
- แหล่งอู่ทองอยู่ที่ สังฆจาย, บึงกระเทียม และหนองผักชี อำเภอเมือง, อำเภออู่ทอง สุพรรณบุรีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 350 บาร์เรลต่อวัน
- แหล่งกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน นครปฐม มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 500 บาร์เรลต่อวัน
- แหล่งก๊าซน้ำพอง อำเภอน้ำพอง ขอนแก่น มีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติ 15 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
- แหล่งก๊าซภูฮ่อม อำเภอหนองแสง อุดรธานี มีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติ 100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ก๊าซธรรมชาติเหลว 450 บาร์เรลต่อวัน
แหล่งขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย
- แหล่งจัสมินและบานเย็น มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 12,000 บาร์เรลต่อวัน
- แหล่งบัวหลวง มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 7,400 บาร์เรลต่อวัน
- แหล่งสงขลา มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 17,500 บาร์เรลต่อวัน
- แหล่งเอราวัณ บรรพต ปลาทอง สตูล และแหล่งไพลิน มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 30,000 บาร์เรลต่อวัน ก๊าซรวมกัน 1,640 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ก๊าซธรรมชาติเหลว 53,800 บาร์เรลต่อวัน
- แหล่งทานตะวัน มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบ 25,000 บาร์เรลต่อวัน ก๊าซธรรมชาติ 130 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
- แหล่งบงกช มีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติ 650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ก๊าซธรรมชาติเหลว 21,000 บาร์เรลต่อวัน
- แหล่งอาทิตย์ มีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติ 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ก๊าซธรรมชาติเหลว 11,500 บาร์เรลต่อวัน
Bibliography
บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน)
https://www.uac.co.th/th/knowledge-sharing?year=2021
จุฬาวิทยานุกรม
http://www.chulapedia.chula.ac.th/index.php?title=น้ำมันดิบ_(Crude_Oil)
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
https://th.wikipedia.org/wiki/ปิโตรเลียม
รวมความรู้เกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำมันในประเทศไทย และของต่างประเทศ
https://www.stopgulfoildisaster.org