สถิติของพลังงานหมุนเวียน เทียบกับ 

การใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนมีการเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ยอดรวมของการกำลังการติดตั้งที่พุ่งสูงขึ้นสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ผลิตที่อยู่ในอุตสาหกรรมด้านพลังงาน  การพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างกว้างขวางผนวกกับข้อกำหนดที่เป็นผลบวกด้านสิ่งแวดล้อม ยังคงทำให้การใช้พลังงานหมุนเวียนขยายตัวทั่วทุกภูมิภาคของโลก ในช่วงต้นศตวรรษที่ 2000 ไม่มีใครสามารถคาดเดาสิ่งนี้ได้ การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของราคาน้ำมันทำให้ประเทศเหล่านี้ร่ำรวยซึ่งกลายเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้  ประทศที่มองหาความมั่นคงทางด้านพลังงานและความรุ่งเรื่องของเศรษฐกิจกำลังหันหลังกลับมาใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง

สถิติของพลังงานหมุนเวียน เทียบกับ พลังงานจากฟอสซิล

เมืองส่วนใหญ่และระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันใช้พลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่จากแหล่งพลังงานฟอสซิล อย่างไรก็ตามเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าแหล่งพลังงานดังกล่าวไม่เพียงพอต่อความต้องการของโลกที่มากขึ้น นั่นหมายถึงโลกต้องมองหาแหล่งพลังงานทางเลือก โดยในปี 2008 การใช้พลังงานหมุนเวียนมีเพียง 6.7 % ของการใช้พลังงานของโลก  อย่างไรก็ตามข้อมูลจาก the International Energy Association (IEA) ประมาณว่า การใช้พลังงานหมุนเวียนอาจเพิ่มขึ้นถึง  25% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในปี 2018 เพิ่มขึ้น 20% จากปี  2011

การเผาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล (น้ำมัน แก๊ส และถ่านหิน)  ประมาณ 2ใน3 ของการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทั้งหมดเป็นพลังงานที่ไม่ได้เป็นพลังงานหมุนเวียน โดยถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานที่มีประสิทธิภาพแย่ที่สุด ซึ่งมันได้ผลิต CO₂ มากกว่า 45% จากปริมาณความร้อนที่ได้รับที่เท่ากันเมื่อเทียบกับก๊าซธรรมชาติ  ซึ่งทำให้ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งพลังงานที่สะอาด  โดย 39% ของการผลิตไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา ในปี 2014 มาจากโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน

จากการประมาณการพบว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลอาจจะมีการใช้งานได้อีก 50-100 ปีข้างหน้า ตัวแปรที่สำคัญคือความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจในอนาคตและการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรซึ่งทำให้มีความต้องการในการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น   อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนมากถึง 22% ของโลก ในปี 2014  สิ่งนี้เป็นผลบวกต่อแนวทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง  อย่างไรก็ตามแม้ว่าสหรัฐอเมริกาผลิตพลังงานหมุนเวียนได้เกือบ 1 ใน 4 ของโลกแต่การผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ยังล้าหลังประเทศอื่น เช่น เยอรมันนีผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ถึง 9% ขณะที่สหรัฐอเมริกาผลิตได้เพียง 4 %  แม้นว่าเยอรมันนีมีแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์น้อยกว่าสหรัฐอเมริกาก็ตาม

The European Solar Association ประมาณการว่าพลังงานจากแสงอาทิตย์สามารถผลิตได้มากถึง 26% ของความต้องการของโลกในปี 2040 สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่แท้จริงในการสร้างงานและความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

Bibliography

GORDON SMITH. (JULY 23, 2015). Statistics of renewable energy versus nonrenewable energy. Retrieved from https://solarthermalmagazine.com: https://solarthermalmagazine.com/2015/07/23/the-statistics-of-renewable-energy-versus-nonrenewable-energy/