แนวโน้มพลังงานสะอาดของโลก: 5 ข้อเท็จจริงที่คุณอาจจะยังไม่รู้ ?

ในยุคที่การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดกลายเป็นวาระสำคัญระดับโลก เรามักได้ยินข่าวใหญ่เกี่ยวกับการเติบโตของพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และเทคโนโลยีไฮโดรเจนอย่างต่อเนื่อง ภาพที่เราเห็นคือโลกที่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่เบื้องหลัง

พาดหัวข่าวเหล่านั้น กลับมีความจริงที่ซับซ้อน น่าประหลาดใจ และบางครั้งก็สวนทางกับความเข้าใจทั่วไปซ่อนอยู่

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเบื้องลึกของโลกพลังงานในปัจจุบันที่น่าสนใจที่สุด ซึ่งสังเคราะห์มาจากรายงานฉบับสำคัญล่าสุดหลายฉบับของหน่วยงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency: IEA) ทั้ง Global Hydrogen Review 2025 และ Renewables 2025 ข้อเท็จจริงเหล่านี้จะเผยให้เห็นถึงความท้าทาย พาราด็อกซ์ และพลวัตที่คาดไม่ถึง ซึ่งกำลังกำหนดทิศทางของการเปลี่ยนผ่านพลังงานทั่วโลก และอาจเปลี่ยนมุมมองที่คุณมีต่อพลังงานสะอาดไปอย่างสิ้นเชิง

1.พาราด็อกซ์ (Paradox) ไฮโดรเจน: แม้ข่าวร้ายจะเยอะ แต่การลงทุนกลับพุ่งทะยาน

หากติดตามข่าวสารในแวดวงพลังงาน คุณอาจรู้สึกว่าอุตสาหกรรมไฮโดรเจนกำลังเผชิญกับมรสุมครั้งใหญ่ สื่อต่างๆ รายงานข่าวเชิงลบอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่ล่าช้า การยกเลิกแผนการลงทุน ไปจนถึงบริษัทที่ต้องล้มละลาย สิ่งเหล่านี้สร้างความกังวลว่าวงการไฮโดรเจนอาจกำลังกลับเข้าสู่ "วัฏจักรความเห่อ (hype cycle)" อีกครั้ง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งความคาดหวังที่สูงเกินจริงไม่ได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม แต่ในอีกมิติหนึ่งที่สวนทางกันโดยสิ้นเชิง ข้อมูลกลับชี้ว่ารากฐานของอุตสาหกรรมนี้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด สิ่งที่ยืนยันเรื่องนี้คือขนาดของโครงการและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการขยายขนาดเทคโนโลยีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น โครงการ NEOM Green Hydrogen ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดว่าจะขยายขนาดเทคโนโลยีได้ถึง 75 เท่าในเวลาเพียง 6 ปี (จาก 30 เมกะวัตต์ ในปี 2021 สู่ระดับที่มากกว่า 2 กิกะวัตต์ ภายในปี 2027) นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคม 2025 Envision Energy ได้เปิดดำเนินการโครงการอิเล็กโทรไลซิสที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 500 เมกะวัตต์ในประเทศจีน โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนนอกระบบสายส่ง ในขณะเดียวกัน การใช้จ่ายในการก่อสร้างโครงการไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นถึง 80% ในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีกกว่า 80% ในปี 2025 แตะระดับเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า แม้ความคาดหวังระยะสั้นบางอย่างอาจไม่เป็นจริงตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ แต่เบื้องหลังข่าวร้ายกลับมีการวางรากฐานที่แข็งแกร่งผ่านการลงทุนและการขยายขนาดโครงการอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

2.จีนครองตลาด: ภาคต่อของแผงโซลาร์และรถยนต์ไฟฟ้า?

จีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลกอย่างชัดเจนในเทคโนโลยีอิเล็กโทรไลเซอร์ (Electrolyser) ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของการผลิตไฮโดรเจนสีเขียว (อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าในการแยกน้ำออกเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน) สถิติจาก IEA แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของจีนในตลาดนี้อย่างน่าทึ่ง:

  • จีนมี กำลังการผลิตอิเล็กโทรไลเซอร์เกือบ 60% ของทั้งโลก
  • จีนมีสัดส่วน กำลังการผลิตติดตั้งของเครื่องอิเล็กโทรไลเซอร์ถึง 65% ของทั้งโลก (รวมโครงการที่ตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายแล้ว)

เครดิตภาพ: https://www.nsm.or.th/nsm/index.php/th/node/6228

ครื่องอิเล็กโทรไลเซอร์ (Electrolyzer) คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแยกสารประกอบทางเคมีด้วยกระบวนการทางไฟฟ้าที่เรียกว่า อิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) โดยใช้กระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC) เพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่ขั้วไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำไฟฟ้า 

หลักการทำงาน ของครื่องอิเล็กโทรไลเซอร์ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน

คือ: 

  1. ขั้วไฟฟ้า (Electrodes): ประกอบด้วยขั้วบวกเรียกว่า "แอโนด" และขั้วลบเรียกว่า "แคโทด"
  2. สารละลายอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte): สารละลายที่สามารถนำไฟฟ้าได้ เช่น น้ำเกลือ หรือสารละลายที่เป็นกรดหรือด่าง
  3. แหล่งกำเนิดกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC Power Source): เช่น แบตเตอรี่ 

เมื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าไปในสารละลายอิเล็กโทรไลต์ จะเกิดปฏิกิริยาเคมีขึ้นที่ขั้วไฟฟ้าทั้งสอง: 

  • ที่ขั้วแอโนด (ขั้วบวก): เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน โดยไอออนลบจะวิ่งไปให้อิเล็กตรอน
  • ที่ขั้วแคโทด (ขั้วลบ): เกิดปฏิกิริยารีดักชัน โดยไอออนบวกจะวิ่งไปรับอิเล็กตรอน 

ชนิดของอิเล็กโทรไลเซอร์

อิเล็กโทรไลเซอร์ที่ใช้ในการผลิตก๊าซไฮโดรเจนมีหลายประเภทหลัก ๆ ได้แก่: 

  • อิเล็กโทรไลเซอร์แบบอัลคาไลน์ (Alkaline Electrolyzer - AEC):
    • ใช้สารละลายโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (KOH) เป็นอิเล็กโทรไลต์เหลว
    • เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันมานาน มีความทนทานสูง
  • อิเล็กโทรไลเซอร์แบบเยื่อแลกเปลี่ยนโปรตอน (Proton Exchange Membrane Electrolyzer - PEMEC):
    • ใช้เยื่อเมมเบรนแข็ง (Solid Membrane) ในการแลกเปลี่ยนโปรตอน
    • ไฮโดรเจนที่ได้มีความบริสุทธิ์สูงมาก และทำงานได้ที่แรงดันสูง
    • เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับพลังงานหมุนเวียน
  • อิเล็กโทรไลเซอร์แบบเยื่อแลกเปลี่ยนไอออนลบ (Anion Exchange Membrane Electrolyzer - AEM):
    • เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างต้นทุนและประสิทธิภาพ
  • อิเล็กโทรไลเซอร์แบบออกไซด์ของแข็ง (Solid Oxide Electrolyzer - SOEC):
    • ทำงานที่อุณหภูมิสูงมาก จึงมีประสิทธิภาพสูง 

สถานการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจว่า "นี่คือภาคต่อของความสำเร็จในอุตสาหกรรมแผงโซลาร์เซลล์ (solar PV) และรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) ของจีนหรือไม่?" ในอดีต การที่จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทั้งสองได้ส่งผลให้ต้นทุนเทคโนโลยีลดลงอย่างรวดเร็วและเกิดการใช้งานในวงกว้างทั่วโลก การที่จีนเป็นผู้นำในตลาด อิเล็กโทรไลเซอร์อาจนำมาซึ่งประโยชน์ในแง่ของการลดต้นทุนเทคโนโลยีไฮโดรเจนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็สร้างความท้าทายด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานให้กับประเทศอื่นๆ ที่อาจต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากจีนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ภาพของการเป็นเจ้าตลาดเบ็ดเสร็จอาจไม่ได้คงอยู่ตลอดไป รายงานของ IEA คาดการณ์ว่า แม้จีนจะครองส่วนแบ่งกำลังการผลิตติดตั้งในระยะสั้น แต่ส่วนแบ่งในด้าน กำลังการผลิตของผู้ผลิต (manufacturing capacity) ทั่วโลกจะลดลงเหลือประมาณหนึ่งในสามภายในปี 2030 เนื่องจากตลาดโลกจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงภาพอนาคตที่ซับซ้อนกว่าเดิม ซึ่งการแข่งขันในตลาดโลกอาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น

3.รถบรรทุก ไม่ใช่รถยนต์นั่ง: คือผู้ขับเคลื่อนไฮโดรเจนบนท้องถนนตัวจริง

เครดิตภาพ: https://www.mreport.co.th/news/industry-movement/206-Toyotaรถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน-FCV

เมื่อพูดถึงยานยนต์ไฮโดรเจน ภาพจำของคนส่วนใหญ่มักจะเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ดูทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ข้อมูลล่าสุดกลับเผยความจริงที่น่าประหลาดใจว่า ตัวขับเคลื่อนหลักของความต้องการใช้ไฮโดรเจนในภาคขนส่งทางถนนกลับไม่ใช่รถยนต์นั่ง แต่เป็น "รถบรรทุกหนัก" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ข้อมูลจาก IEA ได้ฉายภาพที่ชัดเจนของสถานการณ์นี้:

  • แม้ว่ารถบรรทุกจะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 15% ของยานพาหนะเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) ทั้งหมด แต่กลับมีการ ใช้ไฮโดรเจนมากถึงเกือบสองในสาม ของปริมาณการใช้ทั้งหมดในภาคส่วนนี้
  • ความต้องการใช้ไฮโดรเจนในภาคขนส่งทางถนนกว่า 75% มาจากประเทศจีนเพียงประเทศเดียว

อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย เนื่องจากต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership: TCO) ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ จากข้อมูลของ IEA ในตลาดจีน TCO ของรถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิงยังสูงกว่ารถบรรทุกดีเซลถึงประมาณ 35% ในขณะที่รถบรรทุกไฟฟ้าแบตเตอรี่ใน

บางกรณีกลับมี TCO ที่ ต่ำกว่า รถดีเซลแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นความท้าทายที่ต้องเอาชนะให้ได้เพื่อให้เกิดการยอมรับในวงกว้างต่อไป

4.ปริศนากำไรพลังงานหมุนเวียน: ยอดติดตั้งทุบสถิติ แต่ผู้ผลิตกลับขาดทุนยับ

นี่คือหนึ่งในความขัดแย้งที่น่าสนใจที่สุดในโลกพลังงานปัจจุบัน ในขณะที่การติดตั้งพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกกำลังเฟื่องฟูและทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง สถานะทางการเงินของผู้ผลิตเทคโนโลยีหลักกลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง

ข้อมูลจาก IEA เผยให้เห็นภาพที่น่ากังวลนี้:

  • ตลาดโซลาร์เซลล์ในจีน: ภาวะอุปทานล้นตลาดและการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงได้ส่งผลให้ราคาแผงโซลาร์เซลล์ ลดลงกว่า 60% ตั้งแต่ปี 2023 ซึ่งทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่มี ผลขาดทุนสะสมเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ต้นปี 2024
  • ตลาดกังหันลม: ผู้ผลิตกังหันลมนอกประเทศจีนก็กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก โดยรายงาน ผลขาดทุนสะสมถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีที่แล้ว

เครดิตภาพ: https://www.sterlingtt.com/2023/06/21/examples-of-wind-energy/

ปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า แม้ความต้องการพลังงานสะอาดจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ภาวะอุปทานล้นตลาดและการแข่งขันที่ดุเดือดกำลังบั่นทอนความยั่งยืนทางการเงินของห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด นี่คือความท้าทายเชิงโครงสร้างที่อุตสาหกรรมต้องแก้ไข เพื่อให้แน่ใจว่าการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนจะดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

5.สหรัฐฯ แตะเบรก: การคาดการณ์พลังงานหมุนเวียนถูกปรับลดลงเกือบครึ่ง

หนึ่งในข้อมูลที่น่าตกใจที่สุดจากรายงานล่าสุดของ IEA คือการปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐอเมริกาอย่างมหาศาล โดยคาดการณ์สำหรับช่วงปี 2025-2030 ถูกปรับลดลงเกือบ 50% เมื่อเทียบกับรายงานของปีที่แล้ว

การปรับลดครั้งใหญ่นี้ไม่ได้เกิดจากปัญหาด้านเทคโนโลยีหรือความต้องการของตลาด แต่มีสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลหลายอย่าง ได้แก่:

  • การยกเลิกเครดิตภาษีของรัฐบาลกลางเร็วกว่ากำหนด
  • การออกมาตรการจำกัดการนำเข้าใหม่
  • การระงับการให้เช่าพื้นที่ใหม่สำหรับโครงการฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง

เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจที่สำคัญว่า นโยบายของรัฐบาลมีบทบาทอย่างยิ่งในการกำหนดทิศทางของการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบอันมหาศาลของความเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น การคาดการณ์สำหรับจีนก็ถูกปรับลดลงเช่นกันหลังการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่จากระบบค่าไฟฟ้าคงที่ (fixed tariffs) ไปสู่ระบบการประมูล ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐศาสตร์ของโครงการเช่นเดียวกัน

บทสรุป

การเดินทางสู่โลกพลังงานสะอาดนั้นซับซ้อนและเต็มไปด้วยความท้าทายที่คาดไม่ถึง มากกว่าภาพที่เรียบง่ายซึ่งมักถูกนำเสนอในสื่อกระแสหลัก จากพาราด็อกซ์ของการลงทุนในไฮโดรเจนที่สวนทางกับข่าวร้าย ไปจนถึงภาวะไร้กำไรของผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนท่ามกลางการเติบโตที่ทุบสถิติ ล้วนเป็นเครื่องยืนยันว่าเส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

ข้อเท็จจริงเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อบั่นทอนความหวัง แต่เพื่อสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและสมจริงยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน โลกกำลังเผชิญกับโจทย์ที่ท้าทายทั้งในมิติของเทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์ การเมือง และความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบและนโยบายที่สอดคล้องกันเพื่อก้าวข้ามไปให้ได้

เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ซับซ้อนเหล่านี้ คุณคิดว่าโลกจะสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศได้อย่างไร และเราควรให้ความสำคัญกับอะไรเป็นอันดับแรก?

Reference:

  1. Energy in 2025 and the Future: Trend, Challenges, and Innovations; https://sustainable.kmutt.ac.th/energy-in-2025-and-the-future-trends-challenges-and-innovations/
  2. Global Hydrogen Review 2025-NET; https://iea.blob.core.windows.net/assets/12d92ecc-e960-40f3-aff5-b2de6690ab6b/GlobalHydrogenReview2025.pdf
  3. Global energy investment set to rise to $3.3 trillion in 2025 amid economic uncertainty and energy security concerns; https://www.iea.org/news/global-energy-investment-set-to-rise-to-33-trillion-in-2025-amid-economic-uncertainty-and-energy-security-concerns
  4. Massive global growth of renewables to 2030 is set to match entire power capacity of major economies today, moving world closer to tripling goal; https://www.iea.org/news/massive-global-growth-of-renewables-to-2030-is-set-to-match-entire-power-capacity-of-major-economies-today-moving-world-closer-to-tripling-goal
  5. Record Renewable Energy Investment in 2025: Three Things to Know; https://about.bnef.com/insights/clean-energy/record-renewable-energy-investment-in-2025-three-things-to-know/
  6. Renewable electricity-Renewables 2025-Analysis-IEA; https://www.iea.org/reports/renewables-2025/renewable-electricity
  7. Renewable 2025-NET; https://iea.blob.core.windows.net/assets/48eccb83-984c-45d2-bf78-67a61e88d241/Renewables2025.pdf
  8. Why Renewable Energy Integration is Important in 2025; https://pinnacleiit.com/blogs/why-renewable-energy-integration-is-important-in-2025/

1 Review

5

Write a Review

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *